สรุป! เช็กลิสต์เตรียมตัวสอบ TCAS ของ Dek68 | Applied Physics
  กลับสู่หน้าบทความ

เทคนิคเตรียมตัวสอบ TCAS พร้อมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนสอบ

 21 มีนาคม 2567 23:10:32

Dek68 เตรียมตัวให้พร้อม! การสอบ TCAS ปีการศึกษา 2568 ใกล้เข้ามาทุกที แอบเห็นน้อง ๆ หลายคนกำลังกังวลใจว่าควรเตรียมตัวสอบอย่างไร จะไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมดีไหม ทั้งวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เคมี รวมถึงวิชาฟิสิกส์ แต่ในการสอบ TCAS ควรไปเรียนติวที่ไหนดี ที่จะช่วยให้ได้คะแนนสูง ๆ อย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ วันนี้เรามีมาแนะนำกัน 

พี่ ๆ เข้าใจดีว่า ไม่ว่าใครก็อยากเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝันด้วยกันทั้งนั้น ในบทความนี้จะขอมาแจกเช็กลิสต์เตรียมตัวสอบ TCAS ของ Dek68 ในทุกขั้นตอน ที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถวางแผนและเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง!

นักเรียนกำลังฝนข้อสอบลงในกระดาษคำตอบ


 

Table of Content


รู้จัก TCAS ของ Dek68

 

ระบบ TCAS คืออะไร?

TCAS (Thai University Central Admission System) คือ ระบบกลางสำหรับคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน มีหลักการแบบ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ ซึ่งมีทั้งมหาวิทยาลัยรัฐบาลและเอกชน (บางแห่ง) รวมกว่า 75 สถาบัน ที่ใช้ระบบนี้ในการคัดเลือก

ทั้งนี้ ระบบ TCAS มีเว็บไซต์ myTCAS ที่น้อง ๆ สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่ามหาวิทยาลัยที่ตนเองอยากเข้าอยู่ในระบบนี้ด้วยหรือไม่ พร้อมระบุเกณฑ์การคัดเลือกของคณะและมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมในแต่ละรอบ 

TCAS68 มีข้อสอบอะไรบ้าง?

TCAS 68 จะมีข้อสอบทั้งหมด 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

1. TGAT (Thai General Aptitude Test)

คะแนนเต็ม 300 แบ่งออกเป็น 3 พาร์ต ได้แก่

  • Part 1 - English Communication (การสื่อสารภาษาอังกฤษ)
  • Part 2 - Critical and Logical Thinking (การคิดเชิงวิพากษ์และตรรกะ)
  • Part 3 - Future Workforce Competencies (สมรรถนะในการทำงาน)
    • Value Creation & Innovation (การสร้างคุณค่าและวัฒนธรรม)
    • Complex Problem Solving (การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน)
    • Emotional Governance (การบริการจัดการอารมณ์)
    • Civic Engagement (การมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสังคม)

สำหรับข้อสอบ TGAT น้อง ๆ จำเป็นต้องสอบทุกวิชา ไม่สามารถเลือกสอบได้

2. TPAT (Thai Professional Aptitude Test)

คะแนนเต็ม 100 คะแนนต่อ 1 วิชา โดยจะแบ่งเป็น 5 วิชา ได้แก่

  • ความถนัดแพทย์
  • ความถนัดวิศวกรรม
  • ความถนัดทางสถาปัตยกรรม
  • ความถนัดวิชาชีพครู
  • ความถนัดทางศิลปกรรม

3. A-Level (Applied Knowledge)

คะแนนเต็ม 100 คะแนนต่อ 1 วิชา โดยจะแบ่งเป็น 8 วิชา ได้แก่

  • ภาษาไทย
  • สังคม
  • คณิตศาสตร์ (พื้นฐานและเพิ่มเติม)
  • วิทยาศาสตร์
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษาต่างประเทศ
    • ฝรั่งเศส
    • เยอรมัน
    • ญี่ปุ่น
    • จีน
    • บาลี
    • เกาหลี
    • สเปน

สำหรับข้อสอบ TPAT และ A-Level น้อง ๆ สามารถเช็กว่า ในแต่ละคณะและมหาวิทยาลัยที่ตนเองอยากเข้า ต้องใช้คะแนนวิชาใดบ้าง แล้วเลือกสอบเฉพาะวิชาที่ต้องการได้เลย

 

การสอบ TCAS มีกี่รอบ?

เชื่อว่าหลายคนน่าจะสงสัยกันมาโดยตลอด กับคำถามที่ว่า “การสอบ TCAS มีกี่รอบ?” เพราะบางปีมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์เป็น 4 รอบบ้าง 5 รอบบ้าง แต่สำหรับ TCAS68 นี้ จะมีทั้งหมด 4 รอบ ได้แก่

รอบ 1 Portfolio

รอบแรก เป็นรอบที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “รอบพอร์ต” ซึ่งรูปแบบการคัดเลือกก็ตามชื่อเลย กล่าวคือ เป็นการพิจารณาผลงานใน Portfolio ของผู้สมัคร ข้อดีคือ หากทำออกมาได้โดดเด่น น่าสนใจ และมีผลงานที่สอดคล้องกับคณะที่ต้องการเข้า ก็มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยที่ไม่ต้องรอคะแนนสอบทั้งหมด แต่การแข่งขันในรอบแรกนี้จะสูงมาก และคนที่สมัครจะต้องเป็นนักเรียนที่มีคุณสมบัติตามที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น หากไม่ตรงกับเกณฑ์จะไม่สามารถสมัครได้ ดังนั้น ควรเช็กดี ๆ ก่อนว่าคุณสมบัติของเราเข้าข่ายหรือไม่

รอบ 2 Quota

รอบที่ 2 เป็นรอบโควตา ที่จะพิจารณาผู้สมัครจากผลการเรียน GPAX คะแนน TGAT/TPAT และคะแนน A-Level หรือคะแนนอื่น ๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยโควตาที่ว่านี้จะมีจำนวนจำกัดสำหรับนักเรียนในแต่ละพื้นที่ กล่าวคือ ผู้สมัครจะต้องมีภูมิลำเนาและคุณสมบัติเฉพาะตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด สำหรับน้องคนไหนที่มีเกรดเฉลี่ยสูง ๆ ก็มีลุ้นรอบนี้ได้เช่นกัน

รอบ 3 Admission

มาถึงรอบที่ฮอตฮิตที่สุดและคนสมัครเยอะที่สุด เรียกได้ว่าเป็นจุดพีกของ TCAS เลยทีเดียว โดยรอบ 3 นี้จะพิจารณาจากผลการเรียน GPAX คะแนน TGAT/TPAT และ A-Level ตามที่แต่ละคณะกำหนด สำหรับใครที่ยังไม่ได้ 2 รอบก่อนหน้านี้ก็ไม่เป็นไร รอบนี้มีลุ้นกว่าแน่นอน เพราะน้อง ๆ สามารถเลือกคณะและมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าได้มากสุดถึง 10 อันดับ ! โดยจะมีการประมวลผล Admission 2 รอบ เพื่อให้ผู้สมัครมีโอกาสติดคณะในอันดับที่สูงขึ้นได้ ในกรณีที่มีผู้ไม่ยืนยันสิทธิ์ในการประมวลผลรอบแรก

รอบ 4 Direct Admission

และรอบสุดท้ายของการสอบ TCAS ก็คือรอบ Direct Admission หรือที่รู้จักกันในชื่อ “รอบรับตรงอิสระ” ซึ่งถือเป็นรอบเก็บตกสำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้ที่เรียนที่ถูกใจ โดยจะใช้ผลการเรียน GPAX คะแนน TGAT/TPAT และคะแนน A-Level ในการสอบเข้าเหมือนเดิม แต่ข้อจำกัดคือจะเปิดแค่เฉพาะบางคณะ และบางมหาวิทยาลัยเท่านั้น ดังนั้น ใครที่จะสละสิทธิ์รอบที่ 3 ก็ต้องเช็กดูให้ดี ๆ ก่อนว่ารอบ 4 มีมหาวิทยาลัยและคณะที่ตนเองต้องการหรือไม่ จะคุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือเปล่า เพราะรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้ว

นักเรียนทำข้อสอบอยู่ในห้องสอบ

 

เช็กลิสต์การเตรียมตัวสอบ TCAS

 

ค้นหาตัวเองว่าอยากเรียนคณะหรือมหาวิทยาลัยอะไร

สิ่งสำคัญข้อแรกก่อนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย คือ เราต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบอะไร ถนัดอะไรเป็นพิเศษ หรือเรียนอะไรแล้วมีความสุข จากนั้นก็หาข้อมูลคณะและมหาวิทยาลัยที่ตรงกับความสนใจ ซึ่งนอกจากในอินเทอร์เน็ตแล้ว เรายังสามารถปรึกษาพ่อ แม่ ครูแนะแนว อาจารย์ รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวการศึกษาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้อีกทางหนึ่ง 

ศึกษาข้อมูลคณะและมหาวิทยาลัย

เมื่อเลือกคณะที่ตรงกับความสนใจได้แล้ว ก็ให้ลองศึกษาข้อมูลที่ลึกขึ้นกว่าเดิม เช่น หลักสูตรการเรียน หรือเกณฑ์การคัดเลือก เพื่อดูว่าเรามีคุณสมบัติสอดคล้องกับทางคณะต้องการหรือไม่ สำหรับใครที่มองหาโอกาสทางการศึกษาต่อหลังจบปริญญาตรี หรือทุนการศึกษา ก็แนะนำให้หาข้อมูลในส่วนนี้ตั้งแต่ก่อนสมัครเลย เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน จะได้สามารถเลือกที่ที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดได้

วางแผนเตรียมตัวสอบ TCAS สามารถสอบรอบไหนได้บ้าง

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า การสอบ TCAS มีกี่รอบ และแต่ละรอบมีลักษณะเป็นอย่างไร ใครที่วางแผนอยากสอบรอบไหนไว้ อย่าลืมตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองให้ครบถ้วน แล้ววางแผนการสอบในแต่ละรอบ พร้อมสมัครสอบภายในระยะเวลาที่กำหนด

ตรวจสอบรายวิชาและวันสอบ

จากนั้นให้ตรวจสอบรายวิชาที่ต้องใช้ยื่นในรอบนั้น ๆ ให้ดี แล้วสมัครสอบให้ถูกวิชา พร้อมบุ๊กมาร์กวันและเวลาที่ต้องไปสอบไว้เลย เพราะการสอบมีแค่ครั้งเดียว หากไม่ได้ไปหรือลงผิดวิชา อาจทำให้พลาดคณะในฝันได้ โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปเช็กรายวิชาที่ต้องสอบของแต่ละรอบที่เว็บไซต์ Mytcas ได้เลย

จัดตารางอ่านหนังสือ

การวางแผนการอ่านหนังสือล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมตัวสอบ TCAS เพราะมีหลายคณะที่ต้องใช้คะแนนจากหลายวิชา ดังนั้น น้อง ๆ ควรแบ่งเวลาอ่านหนังสือให้เหมาะสม เน้นวิชาที่สำคัญ ๆ หรือวิชาที่ใช้สัดส่วนเยอะเป็นพิเศษ พร้อมทั้งฝึกทำโจทย์เก่าบ่อย ๆ ให้เกิดความคุ้นชินกับแนวข้อสอบ

 

น้อง ๆ Dek68 ทุกคนสามารถเตรียมตัวสอบ TCAS ให้ได้คะแนนสูง ๆ ได้ เพียงแค่มีวินัย อดทน และตั้งใจอ่านหนังสือ เพียงเท่านี้ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่มั่นใจในวิชาต่าง ๆ และกำลังหาว่าจะลงคอร์สติววิชาคณิตศาสตร์ คอร์สติวสอบเข้าแพทย์ หรือคอร์สติวฟิสิกส์ TCAS ที่ไหนดี สามารถลงเรียนได้เลยที่ Applied Physics โดยเลือกเรียนได้ทั้งที่สาขาและเรียนออนไลน์ ทุกคอร์สของเราอัดแน่นด้วยเนื้อหาพร้อมเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้น้อง ๆ ก้าวเข้าสนามสอบได้อย่างมั่นใจ!

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-3060867, 02-3060868, 02-3060869 และ 085-4925599 หรือ แอดไลน์ @appliedphysics (มี @ ด้วย)


 

ข้อมูลอ้างอิง:

loading
loading
เพิ่มในตะกร้าแล้ว
×
ชื่อคอร์ส
ราคา บาท
น้องนาโน
×
สวัสดีครับ มีข้อเสนอแนะ หรือเรียนแล้วไม่เข้าใจ เขียนคำถามมาถามอาจารย์ ผ่านน้องนาโนได้เลยครับ
ถาม "น้องนาโน"
×
เพื่อความรวดเร็วในการตอบกลับ กรุณากรอกข้อมูลจริง หากเป็นสมาชิกกรุณาใช้อีเมลที่ลงทะเบียนไว้กับเราครับ