กลับสู่หน้าบทความ
อัปเดตค่าเทอมคณะแพทย์ ม.รัฐฯ และเอกชนทั่วประเทศ ปี 2568
10 กันยายน 2568 12:05:33
ก่อนจะลงสนามสอบ TPAT1 ความถนัดแพทย์เพื่อคว้าที่นั่งในคณะแพทยศาสตร์ การรู้ข้อมูลค่าเทอมคณะแพทย์ของแต่ละมหาวิทยาลัยถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้น้อง ๆ สามารถวางแผนด้านการเงินและเลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองได้ตั้งแต่ต้น ทั้งยังช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าควรเลือกเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาลหรือเอกชนดี โดยบทความนี้ได้รวบรวมค่าเทอมแพทย์ล่าสุดปี 2568 มาให้แล้วแบบครบทุกที่ อัปเดตจริง ใช้เตรียมความพร้อมได้ทันที
Table of Contents:
• ค่าเทอมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยรัฐฯ
• ค่าเทอมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเอกชน
• ทำไมค่าเทอมคณะแพทย์ถึงสูงกว่าคณะอื่น ๆ ?
• เทคนิควางแผนการเงินก่อนเลือกเรียนแพทย์

ค่าเทอมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยรัฐฯ
คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยรัฐยังคงเป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ ของน้อง ๆ หลายคน เพราะค่าเทอมอยู่ในระดับที่จับต้องได้มากกว่าเมื่อเทียบกับเอกชน และยังได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐด้วย โดยค่าเทอมแพทย์มหาวิทยาลัยรัฐฯ มีดังนี้• รามาธิบดี (ม.มหิดล) – 30,000 บาท / เทอม
• ศิริราช (ม.มหิดล) – 30,000 บาท / เทอม
• จุฬาฯ – 34,000 บาท / เทอม
• ม.เชียงใหม่ – ปี 1: 20,000 บาท / ปี, ปี 2–6: 40,000 บาท / ปี
• ม.ธรรมศาสตร์ – 21,100 บาท / เทอม
• ม.เกษตรศาสตร์ – 50,000 บาท / เทอม
• ม.ขอนแก่น – 18,000 บาท / เทอม
• สถาบันพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง – 495,000 บาท / เทอม (หลักสูตรอินเตอร์)
• ม.บูรพา – 100,000 บาท / เทอม
• ม.สงขลานครินทร์ – 28,000 บาท / เทอม
• ม.นวมินทราธิราช – 35,000 บาท / เทอม
• ม.แม่ฟ้าหลวง – 50,000 บาท / เทอม
• ม.มหาสารคาม – 40,000 บาท / เทอม
• ม.นเรศวร – 240,000 บาท ตลอดหลักสูตร
• ม.อุบลราชธานี – 42,000 บาท / เทอม
• ม.นราธิวาสราชนครินทร์ – 25,000 บาท / เทอม
• ม.พะเยา – 50,000 บาท / เทอม
• สถาบันพระบรมราชชนก – ปี 1–3: 30,000 บาท / เทอม (ปี 4–6 เรียนกับโรงพยาบาลศูนย์)
• ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ – ปี 1–3: 235,700 บาท / ปี
• ม.วลัยลักษณ์ – 33,900 บาท / เทอม (มี 3 เทอมต่อปี)
• ศิริราช (ม.มหิดล) – 30,000 บาท / เทอม
• จุฬาฯ – 34,000 บาท / เทอม
• ม.เชียงใหม่ – ปี 1: 20,000 บาท / ปี, ปี 2–6: 40,000 บาท / ปี
• ม.ธรรมศาสตร์ – 21,100 บาท / เทอม
• ม.เกษตรศาสตร์ – 50,000 บาท / เทอม
• ม.ขอนแก่น – 18,000 บาท / เทอม
• สถาบันพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง – 495,000 บาท / เทอม (หลักสูตรอินเตอร์)
• ม.บูรพา – 100,000 บาท / เทอม
• ม.สงขลานครินทร์ – 28,000 บาท / เทอม
• ม.นวมินทราธิราช – 35,000 บาท / เทอม
• ม.แม่ฟ้าหลวง – 50,000 บาท / เทอม
• ม.มหาสารคาม – 40,000 บาท / เทอม
• ม.นเรศวร – 240,000 บาท ตลอดหลักสูตร
• ม.อุบลราชธานี – 42,000 บาท / เทอม
• ม.นราธิวาสราชนครินทร์ – 25,000 บาท / เทอม
• ม.พะเยา – 50,000 บาท / เทอม
• สถาบันพระบรมราชชนก – ปี 1–3: 30,000 บาท / เทอม (ปี 4–6 เรียนกับโรงพยาบาลศูนย์)
• ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ – ปี 1–3: 235,700 บาท / ปี
• ม.วลัยลักษณ์ – 33,900 บาท / เทอม (มี 3 เทอมต่อปี)
หมายเหตุ: บางแห่งมีระบบ 3 เทอมต่อปี และบางแห่งใช้การคิดค่าเทอมแพทย์เป็นรายปี ไม่ใช่รายเทอม ดังนั้น น้อง ๆ อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดโดยตรงกับมหาวิทยาลัยก่อนตัดสินใจ
ค่าเทอมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเอกชน
ถึงแม้ค่าเทอมคณะแพทย์โดยเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยเอกชนจะสูงกว่ามหาวิทยาลัยรัฐฯ แต่สิ่งที่น้อง ๆ จะได้กลับมาคือความสะดวกครบครัน ทั้งอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม โดยค่าเทอมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเอกชนแต่ละแห่งมีดังนี้• มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ค่าเทอมรวม: 7,200,000 บาท ตลอด 6 ปี
(เหมาจ่าย 600,000 บาท / ภาคเรียน)
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
ค่าเทอมรวม: 7,348,300 บาท
(ค่าลงทะเบียน 600,000 บาท / ปี + ค่าแรกเข้าอื่น ๆ รวม 139,000 บาท)
• มหาวิทยาลัยสยาม
• มหาวิทยาลัยสยาม
ค่าเทอมรวม: 5,538,900 บาท
(ค่าอุปกรณ์ 100,000 บาท / ปี และค่ารายเทอมประมาณ 461,000–467,000 บาท)
• มหาวิทยาลัยรังสิต
• มหาวิทยาลัยรังสิต
ค่าเทอมรวม: 4,800,000 บาท
(ลงทะเบียน 800,000 บาท / ปี + ค่าภาคฤดูร้อน และบำรุงอื่น ๆ)
ทำไมค่าเทอมคณะแพทย์ถึงสูงกว่าคณะอื่น ๆ ?
เมื่อดูภาพรวมของค่าเทอมคณะแพทย์ น้อง ๆ จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่าคณะอื่นอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐหรือเอกชน อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลรองรับเรื่องนี้ชัดเจน โดยสามารถแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้• ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะทาง – เช่น หุ่นจำลองคนไข้ เครื่องมือผ่าตัด เครื่องตรวจร่างกาย ฯลฯ ซึ่งมีราคาสูงและต้องมีการบำรุงรักษาตลอด
• การเรียนมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในโรงพยาบาลจริง – ทำให้ต้องลงทุนด้านสถานที่ ระบบ และบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อรองรับการฝึกแบบลงมือจริง
• มีอาจารย์แพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด – ซึ่งเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพที่ต้องมีค่าตอบแทนและความพร้อมในการสอนเฉพาะด้าน
• หลักสูตรเน้นการฝึกฝนอย่างเข้มข้น – เพื่อให้นักศึกษาแพทย์สามารถทำงานได้ทันทีหลังเรียนจบ จึงต้องมีชั่วโมงฝึกที่มากและเข้มข้นกว่าคณะอื่น
• จำกัดจำนวนนักศึกษาในแต่ละรุ่น – เพื่อให้ควบคุมคุณภาพการเรียนรู้ได้ทั่วถึง ส่งผลให้ต้นทุนต่อหัวสูงกว่าคณะที่เปิดรับนักศึกษาเยอะ ๆ
• การเรียนมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในโรงพยาบาลจริง – ทำให้ต้องลงทุนด้านสถานที่ ระบบ และบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อรองรับการฝึกแบบลงมือจริง
• มีอาจารย์แพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด – ซึ่งเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพที่ต้องมีค่าตอบแทนและความพร้อมในการสอนเฉพาะด้าน
• หลักสูตรเน้นการฝึกฝนอย่างเข้มข้น – เพื่อให้นักศึกษาแพทย์สามารถทำงานได้ทันทีหลังเรียนจบ จึงต้องมีชั่วโมงฝึกที่มากและเข้มข้นกว่าคณะอื่น
• จำกัดจำนวนนักศึกษาในแต่ละรุ่น – เพื่อให้ควบคุมคุณภาพการเรียนรู้ได้ทั่วถึง ส่งผลให้ต้นทุนต่อหัวสูงกว่าคณะที่เปิดรับนักศึกษาเยอะ ๆ

เทคนิควางแผนการเงินก่อนเลือกเรียนแพทย์
การจะตัดสินใจเลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์ ไม่ใช่แค่ต้องเตรียมตัวสอบให้พร้อมเท่านั้น แต่น้อง ๆ ยังต้องวางแผนเรื่องการเงินให้ดีด้วย เพราะการเรียนแพทย์ต้องใช้เวลายาวนานถึง 6 ปี และมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องทุกเทอม ดังนั้น ถ้าน้อง ๆ มีการวางแผนที่รอบคอบตั้งแต่ต้น ก็จะเรียนได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องเครียดระหว่างทาง โดยสามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ในการบริหารค่าใช้เบื้องต้นได้ดังนี้• เทียบค่าเทอมแพทย์กับทุนการศึกษา หรือโอกาสกู้ยืม เช่น กยศ. กรอ.
บางมหาวิทยาลัยมีทุนเรียนดี ทุนสำหรับครอบครัวรายได้น้อย หรือทุนเฉพาะทางให้น้อง ๆ ที่สนใจด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ รวมถึงยังสามารถใช้ กยศ. หรือ กรอ. ช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายได้อีกทาง
• คุยกับผู้ปกครองหรือผู้สนับสนุนการเงินอย่างตรงไปตรงมา
• คุยกับผู้ปกครองหรือผู้สนับสนุนการเงินอย่างตรงไปตรงมา
ลองเปิดใจพูดคุยกันถึงความฝัน ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จริง และความพร้อมของครอบครัว เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจและวางแผนไปในทิศทางเดียวกัน
• เลือกที่เหมาะกับตัวเองทั้งด้านวิชาการและค่าใช้จ่าย
• เลือกที่เหมาะกับตัวเองทั้งด้านวิชาการและค่าใช้จ่าย
บางคนสอบติดได้หลายที่ อย่าเลือกจากชื่อเสียงหรือความฮิตอย่างเดียว แต่ให้ดูด้วยว่าที่ไหนมีค่าเทอมแพทย์ที่ไม่เกินกำลัง และมีหลักสูตรหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับสไตล์การเรียนของเรา
• เช็กทุนของแต่ละมหาวิทยาลัยโดยตรง
• เช็กทุนของแต่ละมหาวิทยาลัยโดยตรง
ทุนบางประเภทจะประกาศในเว็บไซต์ หรือเปิดรับเฉพาะช่วงเวลาเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ ติดตามอย่างใกล้ชิดก็จะมีโอกาสได้ทุนที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น
หากน้อง ๆ วางแผนจะเรียนแพทย์และเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากการรู้ค่าเทอมแพทย์ปี 2568 ของแต่ละมหาวิทยาลัยแล้ว การมีคอร์สติวดี ๆ ที่ช่วยปูพื้นฐานและฝึกทำข้อสอบความถนัดแพทย์ (TPAT1) ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยที่ Applied Physics เรามีคอร์ส TPAT1 - AP47 ความถนัดทางแพทย์ สำหรับน้อง ๆ ที่ตั้งเป้าเข้าคณะแพทย์ทุกแห่งทั่วประเทศ สอนโดยทีมติวเตอร์ที่เข้าใจโครงสร้างข้อสอบแบบเจาะลึก พร้อมเทคนิคพิชิตข้อสอบแบบเข้าใจง่ายและแม่นยำ เข้าเรียนได้ทั้งที่สถาบันหรือทางออนไลน์
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-3060867, 02-3060868, 02-3060869, 085-4925599 หรือ Line: @appliedphysics (มี @ นำหน้า)