อยากติว TGAT ให้ได้ 90 คะแนน ต้องรู้อะไรบ้าง ?
เข้าสู่โค้งสำคัญบนเส้นทาง TCAS กันแล้วนะครับน้อง ๆ #Dek69 ทุกคน ซึ่งสนามสอบที่เป็นเสมือนประตูด่านแรกสู่คณะในฝันที่ทุกคนต้องพิชิตไปให้ได้ก็คือ การสอบ TGAT แต่พี่ ๆ เข้าใจดีว่าน้อง ๆ หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าการสอบนี้คืออะไรกันแน่ ? และควรเริ่มเตรียมตัวติว TGAT จากจุดไหนดี ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้พี่ ๆ ได้รวบรวม "เคล็ดลับฉบับจับมือทำ" มาให้แบบจัดเต็ม เพื่อพาน้อง ๆ ติว TGAT ให้ได้เกิน 90 คะแนนขึ้นไปในแต่ละพาร์ต บอกเลยว่าหากนำไปปรับใช้อย่างตั้งใจจริง คะแนนที่น้อง ๆ หวังไว้ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าพร้อมจะอัปสกิลกันแล้วก็ไปลุยกันเลย !
Table of Contents:
• รู้จัก TGAT รอบด้าน
• TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)
• TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical and Logical Thinking)
• TGAT3: สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competencies)
• 4 สเตปสู่พิชิต TGAT 90+ คะแนน
• สเตปที่ 1: ตั้งเป้าหมายและประเมินตัวเอง (Goal Setting & Self-Assessment)
• สเตปที่ 2: จัดตารางอ่านหนังสือแบบ ‘ทำได้จริง’ (Create a Realistic Schedule)
• สเตปที่ 3: ตะลุยเนื้อหาและฝึกฝน ‘ถูกจุด’ (Smart Practice)
• สเตปที่ 4: จำลองสนามสอบและบริหารเวลา (Simulation & Time Management)
รู้จัก TGAT รอบด้าน รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
ก่อนจะไปดูเทคนิคการเตรียมสอบ TGAT เรามาทำความเข้าใจหัวใจของข้อสอบ TGAT กันก่อน สำหรับการสอบนี้ไม่ได้วัดความรู้เชิงลึกแบบ A-Level แต่จะวัด "สมรรถนะ" หรือ "ทักษะ" ที่จำเป็นสำหรับน้อง ๆ ต่อการเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 พาร์ตใหญ่ ๆ คะแนนเต็มพาร์ตละ 100 คะแนน รวม 300 คะแนน ให้เวลาทำทั้งหมด 3 ชั่วโมง (180 นาที) โดยเราสามารถบริหารเวลาทำพาร์ตไหนก่อนหลังก็ได้
TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)
พาร์ตนี้จะวัดความเข้าใจและการใช้ภาษาอังกฤษเชิงสื่อสาร ไม่ได้เน้นแกรมมาร์ลึกแบบข้อสอบโรงเรียน แต่เน้น “ใช้ภาษาได้จริง” ผ่านบทสนทนาและการอ่านจับใจความ โดยแนวข้อสอบที่ออกบ่อยคือ
• Question-Response (ถาม–ตอบในชีวิตประจำวัน)
• Short Conversation / Long Conversation (บทสนทนาสั้น–ยาว)
• Reading Comprehension และ Text Completion
เทคนิค:
เทคนิคเตรียมสอบ TGAT ในพาร์ตนี้ ให้น้อง ๆ ฝึกอ่านบทสนทนาและข่าวภาษาอังกฤษสั้น ๆ ทุกวัน เช่น BBC Learning English หรือ VoiceTube เพื่อฝึกจับใจความ คำเชื่อม และโครงสร้างประโยค โดยแนะนำให้จำ Pattern ประโยคที่ใช้จริง เช่น “Would you mind if…”, “How about we…” เพราะออกซ้ำบ่อยมากใน TGAT1
TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical and Logical Thinking)
พาร์ตนี้คือ “สมรภูมิของตรรกะ” ที่วัดความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะเหตุผลอย่างเป็นระบบ โดยข้อสอบมักจะอยู่ในแนวทางดังนี้
• การใช้เหตุผลเชิงภาษา (Verbal Reasoning)
• การคิดเชิงตัวเลข (Numerical Reasoning)
• การคิดเชิงมิติสัมพันธ์ (Spatial Reasoning)
• การคิดเชิงตรรกะ (Logical Reasoning)
เทคนิค:
อย่าพยายาม “เดาใจข้อสอบ” แต่ให้หัดมองความสัมพันธ์ของข้อมูลจริง ๆ เช่น
• อ่านโจทย์ให้ครบทุกบรรทัด อย่าใส่ข้อมูลเพิ่มเอง
• ตัดตัวเลือกที่ผิดแน่นอนออกก่อน แล้วใช้วิธีเทียบเหตุผลระหว่างตัวเลือกที่เหลือ
• ฝึกทำข้อสอบเก่าจับเวลาเพื่อให้สมองชินกับความกดดัน
TGAT3: สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competencies)
พาร์ตนี้คือ “ข้อสอบวัด Soft Skills” ที่สอดคล้องกับโลกการทำงานยุคใหม่ ประกอบด้วย 4 ด้านคือ
1. การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม (Value Creation & Innovation)
2. การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving)
3. การบริหารอารมณ์ (Emotional Governance)
4. การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม (Civic Engagement)
เทคนิค:
เทคนิคเตรียมสอบ TGATพาร์ตนี้ น้อง ๆ ต้องฝึกอ่านสถานการณ์จริง เช่น “ถ้ามีปัญหาในทีมจะจัดการอย่างไร” หรือ “จะสร้างนวัตกรรมเล็ก ๆ ในโรงเรียนได้อย่างไร” แล้วตอบแบบมีเหตุผลเป็นขั้นตอน ไม่ต้องตอบสวยหรู แต่ให้ตอบ “เป็นตรรกะและมีเหตุผลรองรับ” 
4 สเตปพิชิต TGAT 90+ คะแนน แบบไม่มีหลงทาง
การเดินทางไกลต้องมีแผนที่ดี การสอบก็เช่นกัน โดยพี่ ๆ Applied Physics ได้สรุปสเตปการเตรียมตัวและติว TGAT ให้ได้เกิน 90+ คะแนนในแต่ละพาร์ตมาเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ที่น้อง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามสะดวกเลย
สเตปที่ 1: ตั้งเป้าหมายและประเมินตัวเอง
ก่อนอื่นในการเตรียมสอบ TGAT น้อง ๆ ต้องรู้ก่อนว่า "ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน ?" และ "เราอยากไปถึงจุดไหน ?" และตั้งเป้าหมายเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
• ลองทำ Mock Exam : หาข้อสอบเก่าหรือชุดข้อสอบจำลอง TGAT มาทำแบบจับเวลาจริง 3 ชั่วโมงเต็ม สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยบอกคะแนนตั้งต้นและชี้จุดอ่อนของเราได้อย่างชัดเจนว่าพาร์ตไหนที่เรายังทำได้ไม่ดี หรือใช้เวลามากเกินไป
• ตั้งเป้าหมายคะแนน : เมื่อเห็นจุดอ่อนแล้ว ให้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น "TGAT1 จะเอาให้ได้ 85+", "TGAT2 ต้องเกิน 90" การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้เรามีทิศทางและมีแรงฮึดสู้ยิ่งขึ้น
สเตปที่ 2: จัดตารางอ่านหนังสือแบบ ‘ทำได้จริง’
อยากให้น้อง ๆ จำไว้ว่า "ความสม่ำเสมอ" ชนะ "การหักโหม" เสมอ ดังนั้น ในการเตรียมสอบ TGAT อย่าเพิ่งรอไปอัดตอนใกล้สอบ แต่ให้แบ่งเวลาฝึกฝนทุกวันหรือทุกสัปดาห์•
• อิงตามปฏิทิน TCAS69 : จาก Timeline น้อง ๆ จะเห็นว่าการสอบ TGAT คือช่วงกลางเดือนธันวาคม ดังนั้นยังพอมีเวลาเตรียมตัว อย่าตื่นตระหนกเกินไป
• วางแผนรายสัปดาห์ : แบ่งเวลาให้ชัดเจน เช่น วันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ท่องศัพท์และทำข้อสอบ TGAT1, วันอังคาร-พฤหัส ทำโจทย์ TGAT2, ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ฝึกทำโจทย์ TGAT3 และทำ Mock Exam เต็มรูปแบบ
• อย่าลืมวันพัก: การพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ อย่ากดดันตัวเองจนเกินไป เพราะสมองที่ปลอดโปร่งจะเรียนรู้ได้ดีกว่า
สเตปที่ 3: ตะลุยเนื้อหาและฝึกฝน ‘ถูกจุด’
เมื่อมีแผนการเตรียมสอบ TGAT แล้ว ก็ถึงเวลาลงมือทำ โดยนี่คือเทคนิคการฝึกฝนในแต่ละพาร์ตที่น้อง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้
TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ
• คลังศัพท์คือหัวใจ : ท่องศัพท์วันละ 10-20 คำ เน้นศัพท์ที่เจอในชีวิตประจำวันและในข่าว ลองใช้แอปพลิเคชันช่วยจำ หรือทำ Flashcard ของตัวเอง
• เสพสื่อภาษาอังกฤษ : ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ดูหนัง/ซีรีส์ Netflix (เปิดซับอังกฤษ), ฟังเพลงสากล, ฟัง Podcast, หรืออ่านบทความสั้น ๆ จาก BBC, CNN การเตรียมสอบ TGAT วิธีนี้จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงและโครงสร้างประโยคแบบเจ้าของภาษา
• ฝึกทำโจทย์จับเวลา : โดยเฉพาะพาร์ต Reading ที่ต้องแข่งกับเวลา ฝึกอ่านเร็ว จับใจความสำคัญ (Main Idea) และหาคีย์เวิร์ดให้เจอ
TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล
• ความสามารถทางภาษา : ฝึกทำโจทย์อนุกรมคำ, อุปมาอุปไมย, และการสรุปความให้แม่นยำ
• ความสามารถทางตัวเลข : ทบทวนคณิตศาสตร์พื้นฐาน เช่น อนุกรม, สมการง่าย ๆ, และโจทย์ปัญหา ฝึกคิดเลขในใจให้เร็ว
• ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ : โจทย์พาร์ตนี้สนุกมาก เหมือนเล่นเกมจับผิดภาพ ฝึกดูรูปทรง 2D, 3D, การพับกล่อง, การหมุนรูปภาพ ลองหาแอปเกมแนวฝึกสมอง (Brain Training) มาเล่นกันดู
• ความสามารถทางเหตุผล : ฝึกทำโจทย์ตรรกศาสตร์ เช่น โจทย์เงื่อนไขทางภาษาและสัญลักษณ์ ทำความเข้าใจตารางและแผนภาพต่าง ๆ
TGAT3: สมรรถนะการทำงาน
• เข้าใจ 4 แกนหลัก
1. การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม : มองหาทางแก้ไขปัญหาแบบใหม่ ๆ
2. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน : วิเคราะห์ปัญหาเป็นส่วน ๆ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
3. การบริหารจัดการอารมณ์ : เข้าใจและควบคุมอารมณ์ตัวเองในสถานการณ์ที่กดดัน
4. การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วม: คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและความรับผิดชอบต่อสังคม
• ฝึกคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) : เวลาเจอโจทย์สถานการณ์ ลองถามตัวเองว่า "ถ้าเราเป็นคนที่มีวุฒิภาวะ เป็นผู้นำที่ดี เราจะคิดและทำอย่างไร ?" คำตอบควรจะสะท้อนการมองโลกในแง่ดี, การพร้อมเรียนรู้, และการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
• อ่านข่าวและบทความ : เพื่อเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น จะช่วยให้เราเข้าใจบริบททางสังคมและมีวัตถุดิบในการตัดสินใจเลือกคำตอบที่ดีที่สุด
สเตปที่ 4: จำลองสนามสอบและบริหารเวลา
• ทำ Mock Exam ซ้ำ ๆ : จับเวลา 3 ชั่วโมงรวด เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับความกดดันและฝึกการบริหารเวลา น้อง ๆ อาจลองสลับลำดับการทำพาร์ตต่าง ๆ เพื่อหาสไตล์ที่ตัวเองถนัดที่สุด เช่น บางคนอาจชอบทำ TGAT2 ก่อนเพื่อวอร์มสมอง หรือบางคนอาจจะเก็บ TGAT1 ที่ถนัดไว้ทำทีหลัง
• วิเคราะห์ข้อผิดพลาด : ทุกครั้งที่ทำข้อสอบเสร็จ อย่าดูแค่คะแนน แต่ให้กลับไปดูว่าเราผิดข้อไหน เพราะอะไร ? ผิดเพราะไม่รู้, อ่านโจทย์ไม่ดี หรือว่ารีบร้อน ? การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดจะทำให้เราเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
เพิ่มความมั่นใจก่อนลงสนามสอบด้วยคอร์สติว TGAT จาก Applied Physics
เชื่อว่าหากน้อง ๆ ทำตามทั้ง 4 สเตปเตรียมสอบ TGAT ในบทความนี้อย่างมีวินัย การพิชิตคะแนน 90+ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมแน่นอน สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากเตรียมตัวได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ที่สำคัญมีคนคอยชี้แนะเทคนิค พาตะลุยโจทย์ที่หลากหลาย และช่วยสรุปประเด็นสำคัญที่ต้องจำให้ เพื่อย่นระยะเวลาลองผิดลองถูก คอร์สติวสอบ TGAT ที่ Applied Physics คือคำตอบ พี่ติวเตอร์สอนเข้าใจง่าย มีเทคนิคการทำข้อสอบที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมคลังข้อสอบเพื่อให้น้อง ๆ ได้ฝึกฝนเพียบ
สอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-3060867, 02-3060868, 02-3060869, 085-4925599
LINE : @appliedphysics (มี @ ด้วยนะ)
ข้อมูลอ้างอิง
1. ปฏิทิน TCAS69 อย่างเป็นทางการ พร้อมปฏิทินการสอบ TGAT/TPAT และ A-Level ปีการศึกษา 2569. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จาก https://www.mytcas.com/news/67/
