อยากติดวิศวะต้องทำไง ? ทริกเตรียมตัวเข้ามหาลัยสำหรับสายวิทย์ | Applied Physics
  กลับสู่หน้าบทความ

8 เคล็ดลับเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย พิชิตคณะวิศวฯ-วิทย์ในฝัน

 02 พฤษภาคม 2568 09:46:10

ใกล้จบ ม.6 กันแล้ว น้อง ๆ สายวิทย์หลายคนคงเริ่มมองหาเส้นทางสู่คณะวิศวกรรมศาสตร์หรือคณะวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำกันบ้างแล้ว แต่ถ้าน้องคนไหนยังกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะมัวแต่คิดว่า โจทย์ฟิสิกส์เครียดจัง เคมีก็ยาก แคลคูลัสก็งง แล้วจะต้องเริ่มเตรียมตัวสอบอย่างไร ?

ไม่ต้องกังวลไป ! เพราะพี่ ๆ Applied Physics จะพามาดูคู่มือการ
เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยแบบเจาะลึก เพื่อช่วยให้น้อง ๆ พิชิตคณะในฝันให้สำเร็จ พร้อมแนะนำคอร์สเรียนติว TPAT3 สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนจะใช้คะแนนเรียนต่อในคณะสายวิทย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศด้วย 


Table of Contents:  

เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย สายวิทย์ควรเริ่มอ่านหนังสือเมื่อไรดี ?

เริ่มตั้งแต่ ม.4 หรืออย่างน้อย 1-2 ปีก่อนสอบ 

หากเป็นไปได้ แนะนำให้เริ่มอ่านตั้งแต่ ม.4  เนื่องจากเนื้อหาฟิสิกส์ เคมี และคณิตศาสตร์มีความซับซ้อนและต่อเนื่องกัน โดยการอ่านตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้มองเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหา และเข้าใจโจทย์ TPAT 3 (ความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์) ได้ดียิ่งขึ้น

หากเริ่มช้า ควรวางแผนเร่งรัดภายใน 6-12 เดือน

สำหรับผู้ที่เตรียมตัวช้า ในช่วง 6-12 เดือนก่อนสอบ ควรเร่งทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์กลศาสตร์ ไฟฟ้า คณิตศาสตร์แคลคูลัส และเคมีโมเลกุลให้แม่นยำก่อน จากนั้นฝึกทำโจทย์ตามแนว TCAS ย้อนหลัง เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบที่ออกประจำ นอกจากนี้ แนะนำให้ลงเรียนคอร์สติวโจทย์วิศวฯ และวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม พร้อมแบ่งเวลาฝึกทักษะการคำนวณด้วย เพื่อให้เข้าใจเทคนิคลัดในการแก้โจทย์ได้เร็วขึ้น

เคล็ดลับเตรียมตัวเข้ามหาลัยสำหรับสายวิทย์

สำหรับน้อง ๆ ที่เตรียมตัวเข้ามหาลัยปี 1 ในคณะวิศวะฯ และวิทยาศาสตร์ เรามีเคล็ดลับการเตรียมสอบมาแนะนำ ดังนี้

1. วางแผนการอ่านเป็นรายสัปดาห์และรายเดือน

การวางแผนอย่างเป็นระบบจะช่วยให้อ่านครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดได้ทันเวลา สำหรับน้อง ๆ สายวิทย์ที่กำลังเร่งสปีดอ่านหนังสือ แนะนำให้แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ และกำหนดเวลาที่จะใช้อ่านในแต่ละหัวข้อให้ชัดเจน เช่น สัปดาห์ที่ 1-2 อ่านวิชาฟิสิกส์เรื่องกลศาสตร์ สัปดาห์ที่ 3-4 อ่านเคมีเรื่องพันธะเคมี เป็นต้น เพราะการมีแผนชัดเจนจะทำให้เห็นภาพรวมและไม่ทำให้รู้สึกว่าเนื้อหามากเกินไป

2. ใช้วิธีอ่านที่เหมาะสมกับตัวเอง

แต่ละคนมีวิธีเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนชอบอ่านหนังสือเงียบ ๆ บางคนชอบดูวิดีโอสอนเทคนิคการคำนวณ บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการจดโน้ตหรือสรุปสูตรและทฤษฎีที่สำคัญ แนะนำให้น้อง ๆ ลองสำรวจและเลือกวิธีที่เหมาะที่สุดกับตัวเอง เพราะการเตรียมตัวสอบเข้าคณะวิศวะหรือวิทย์ต้องใช้เวลานาน ถ้าใช้วิธีการเรียนที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ก็อาจเหนื่อยโดยไม่จำเป็นได้

3. ฝึกทำข้อสอบเก่าอย่างสม่ำเสมอ 

ถ้าอยากทำคะแนนสอบให้ได้ระดับท็อป ควรฝึกทำข้อสอบย้อนหลัง 3-5 ปี และจับเวลาให้เหมือนสอบจริง โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ที่ต้องการความแม่นยำในการคำนวณ นอกจากนี้ หลังทำเสร็จต้องตรวจและวิเคราะห์ข้อที่ผิดเพื่อปรับปรุง รวมถึงทำความเข้าใจวิธีคิดและเทคนิคการแก้โจทย์แต่ละประเภทด้วย เพื่อที่เวลาเจอข้อสอบจริง น้อง ๆ จะได้ไม่ประหม่า และหาวิธีแก้โจทย์ได้เร็วขึ้น เพราะเคยเห็นข้อสอบแนวนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว

4. จัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา 

เนื้อหาในแต่ละหัวข้อออกสอบไม่เท่ากัน ดังนั้น ในขั้นตอนการเตรียมอ่านหนังสือ น้อง ๆ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีว่าเนื้อหาใดที่มักออกสอบบ่อย หรือมีน้ำหนักคะแนนมาก แล้วทุ่มเทเวลากับเนื้อหาเหล่านั้นก่อน เช่น ในวิชาคณิตศาสตร์ แคลคูลัสมักมีจำนวนข้อที่ออกสอบเยอะกว่าพาร์ตอื่น ๆ ก็ควรให้เวลากับการฝึกทำโจทย์ส่วนนี้มากกว่า เพราะถ้าน้อง ๆ ใช้เวลาทุ่มเทกับทุกวิชาเท่ากัน ก็อาจทำให้พลาดโอกาสทำคะแนนส่วนที่สำคัญได้ 

5. ใช้เทคนิคช่วยจำ เช่น Mind Mapping หรือ Flashcards 

เนื้อหาสายวิทย์มีสูตร ทฤษฎี และคำศัพท์จำนวนมาก ซึ่งการใช้เทคนิคช่วยจำจะทำให้จดจำได้ดีขึ้น 

  • Mind Mapping : วาดแผนผังความคิดเชื่อมโยงเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน เช่น การเชื่อมโยงกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันกับการประยุกต์ใช้ในงานวิศวกรรม
  • Flashcards : ทำบัตรคำสำหรับสูตรสำคัญหรือคำศัพท์เฉพาะทาง เช่น สูตรในวิชาไฟฟ้าและแม่เหล็ก หรือชื่อและคุณสมบัติของธาตุต่าง ๆ
  • Active Recall : ฝึกถามตัวเองและพยายามตอบโดยไม่ดูเนื้อหา เช่น ถามตัวเองว่า "สูตรหาความเร่งในการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์คืออะไร" แล้วพยายามตอบจากความจำ

6. หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนและสร้างสภาพแวดล้อมการอ่านหนังสือที่เหมาะสม

จัดพื้นที่เรียนให้สงบ มีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทสะดวก โดยเฉพาะเมื่อต้องฝึกทำโจทย์คำนวณที่ซับซ้อนหรืออ่านทฤษฎีที่ยาก ที่สำคัญ ระหว่างอ่านหนังสือควรปิดการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย ถ้าช่วงแรกอาจยากเกินไป ลองใช้แอปพลิเคชันบล็อกสิ่งรบกวนหรือตั้งเวลาโหมดสมาธิ ก็จะช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับการอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น

7. หมั่นทบทวนและสรุปเนื้อหาให้ตัวเองฟัง

การสรุปทวนเนื้อหาให้ตัวเองฟังเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการเสริมความเข้าใจ โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่ซับซ้อน เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์หรือสมการเคมี โดยเมื่อน้อง ๆ อธิบายออกมาด้วยคำพูดของตัวเอง สมองจะประมวลผลข้อมูลอีกครั้ง ทำให้จดจำได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ถ้าจะให้จำได้แม่นขึ้น น้อง ๆ ก็อาจลองทำสรุปไปอธิบายให้เพื่อนฟังหรือตั้งกลุ่มติวด้วยกันด้วยก็ได้ ก็จะช่วยให้ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ตรวจสอบความเข้าใจ และเติมเต็มความรู้ในส่วนที่อาจมองข้ามไป

8. พักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกาย

สมองจะทำงานได้ดีเมื่อร่างกายแข็งแรง น้อง ๆ จึงควรต้องจัดสรรเวลานอนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และหาเวลาออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพราะแม้จะยุ่งกับการเรียนมากแค่ไหน แต่ถ้าน้อง ๆ บริหารเวลาให้สมองได้มีเวลาพักเป็นช่วง ๆ ก็จะช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพ  และสามารถจดจำสูตรที่ซับซ้อนหรือเข้าใจเนื้อหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น


เพิ่มโอกาสสอบติดด้วยคอร์สติว TPAT3 จาก Applied Physics

การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามเคล็ดลับข้างต้นจะช่วยสร้างพื้นฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับน้อง ๆ ที่มุ่งมั่นจะเข้าคณะวิศวฯ หรือวิทยาศาสตร์ ทาง Applied Physics มีข่าวดี ! เราเปิดคอร์สติว TPAT3 ที่อัปเดตเนื้อหาใหม่ล่าสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้น้อง ๆ ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนการสอบจริงในช่วงต้นเดือนธันวาคม


ที่ Applied Physics เราคัดสรรทั้งคอร์สติวออนไลน์และคอร์สสอนสดที่ออกแบบมาเฉพาะ เน้นการสรุปแนวข้อสอบ TPAT3 อย่างครบถ้วน พร้อมเทคนิคการจำสูตรที่ไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่เน้นความเข้าใจและการนำไปประยุกต์ใช้ในโจทย์จริง ซึ่งจะช่วยให้น้อง ๆ สามารถทำคะแนน TPAT3 ได้ตามเป้าหมาย และพิชิตคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้ตามที่ใฝ่ฝัน

หากสนใจลงเรียนคอร์สกับเรา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนได้ที่:
โทร: 02-3060867, 02-3060868, 02-3060869, 085-4925599 หรือ Line: @appliedphysics (มี @ นำหน้า)

loading
loading
เพิ่มในตะกร้าแล้ว
×
ชื่อคอร์ส
ราคา บาท
Line OA @appliedphysics