คณะทันตแพทย์ใช้คะแนนอะไรบ้าง ? พร้อมเทคนิคเตรียมสอบครบจบ
คณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นหนึ่งในสาขาวิชาทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง รายได้ดี และมีบทบาทในการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชนอย่างใกล้ชิด แต่ด้วยจำนวนรับที่ค่อนข้างจำกัด และการแข่งขันที่สูงมากในแต่ละปี น้อง ๆ จึงต้องเริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อวางแผนการเตรียมตัวสอบได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการมองหาคอร์ส TPAT1 เพื่อติวสอบเพิ่มเสริมความรู้ให้มากยิ่งขึ้น
Table of Contents:
- คณะทันตแพทย์ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง ?
- มหาวิทยาลัยที่เปิดรับสมัครสอบคณะทันตแพทย์
- คณะทันตแพทย์ต้องเรียนอะไรบ้าง ?
- เทคนิคการเตรียมตัวเข้าสอบคณะทันตแพทย์

คณะทันตแพทย์ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง ในปีการศึกษา 2569 ?
การสอบเข้าคณะทันตแพทย์ในปี 2569 อยู่ภายใต้ระบบ TCAS (Thai University Central Admission System) ซึ่งเป็นระบบการรับนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบัน โดย TCAS69 จะประกอบด้วย 4 รอบใหญ่ ๆ คือ
รอบที่ 1 Portfolio
รอบ Portfolio เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่มีความสามารถพิเศษ มีผลงานโดดเด่น หรือมีคะแนนทางภาษาอังกฤษสูง โดยมีเอกสาร รวมถึงคะแนนที่ต้องใช้ดังนี้
- Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน)
- คะแนนสอบมาตรฐานสากล เช่น TOEFL, IELTS, SAT
- คะแนน GPAX มักกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 3.00 ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย
- ข้อสอบเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย
รอบที่ 2 โควตา
รอบนี้เป็นโอกาสของน้อง ๆ ที่อยู่ต่างจังหวัด เพราะจะมีโควตาพิเศษในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้นักเรียนในจังหวัดนั้น ๆ แข่งขันกันเอง โดยมีเอกสาร รวมถึงคะแนนที่ต้องใช้ดังนี้
- คะแนน A-level จะต้องสอบทั้งหมด 7 วิชา คือ คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย และสังคมศาสตร์
- คะแนน TPAT1 ความถนัดทางการแพทย์
- คะแนน GPAX มักกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 3.00 ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย
- คะแนนสอบอื่น ๆ บางมหาวิทยาลัยอาจกำหนดคะแนนสอบเพิ่มเติม เช่น TOEFL, IELTS, TU-GET หรือ CU-TEP
รอบที่ 3 กสพท. (Admission)
สำหรับในรอบนี้ เป็นรอบที่มีการรับนักศึกษามากที่สุด แต่ก็แข่งขันสูงที่สุดเช่นกัน น้อง ๆ สามารถเลือกคณะที่ต้องการได้ถึง 10 อันดับ
- คะแนน A-level จะต้องสอบทั้ง 7 วิชา คือ คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย และสังคมศาสตร์ คิดเป็น 70% โดยมีข้อกำหนดว่าคะแนนในแต่ละกลุ่มวิชาต้องได้ 30% ขึ้นไป
- คะแนน TPAT1 ความถนัดทางการแพทย์ คิดเป็น 30%
ทั้งนี้ กสพท. จะเปิดเผยคะแนนก่อน แล้วถึงจะให้น้อง ๆ ตัดสินใจเลือกอันดับ ในช่วงเวลานี้น้อง ๆ ควรศึกษาข้อมูลสถิติคะแนนย้อนหลังจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกอันดับให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
รอบที่ 4 รับตรงอิสระ เก็บตกรอบสุดท้าย
รอบนี้เป็นรอบที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย ขึ้นอยู่กับประกาศของแต่ละมหาวิทยาลัยในแต่ละปี พี่ ๆ ขอแนะนำว่าให้น้อง ๆ ตั้งใจกับรอบ 1, 2, และ 3 จะดีที่สุด เพราะรอบ 4 มักจะมีจำนวนที่นั่งจำกัด และมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอยู่เสมอ
มหาวิทยาลัยที่เปิดรับสมัครสอบคณะทันตแพทย์
ในประเทศไทยมีหลายสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ ทั้งในระบบภาครัฐและเอกชน โดยมหาวิทยาลัยรัฐจะได้รับความนิยมสูงเนื่องจากค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และมีโอกาสได้ฝึกในโรงพยาบาลของรัฐ โดยมีตัวอย่างของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในคณะทันตแพทย์ ดังนี้
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่มีคณะทันตแพทย์
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยมหิดล
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- มหาวิทยาลัยนเรศวร
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- มหาวิทยาลัยเอกชน เช่น ม.รังสิต (บางปี)
คณะทันตแพทย์ต้องเรียนอะไรบ้าง ?
เมื่อรู้กันไปแล้วว่าการจะเข้าทันตะต้องสอบอะไรบ้าง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือสิ่งที่นักศึกษาคณะทันตแพทย์ต้องเรียนในแต่ละปี ซึ่งมีดังต่อไปนี้
ปี 1-2 วิชาพื้นฐานก่อนคลินิก
ในช่วงแรกจะเน้นการเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่จำเป็น ได้แก่ กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา เภสัชวิทยา จุลชีววิทยา พยาธิวิทยา และอื่น ๆ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานสำคัญที่จะนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วย
ปี 3-4 วิชาทันตกรรมเฉพาะทาง
สำหรับช่วงนี้จะเข้าสู่การเรียนเฉพาะทางในห้องปฏิบัติการและคลินิกจำลอง เช่น การอุดฟัน การถอนฟัน ทันตกรรมจัดฟัน ปริทันตวิทยา และการรักษารากฟัน รวมถึงการฝึกทักษะการใช้เครื่องมือต่าง ๆ
ปี 5-6 ฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจริง (คลินิก)
นับว่าเป็นช่วงที่ได้ลงมือรักษาผู้ป่วยจริง ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากในการพัฒนาทักษะและความมั่นใจก่อนจบการศึกษา
การเตรียมตัวสอบเข้าคณะทันตแพทย์
นอกจากการต้องรู้ว่าคณะทันตแพทย์ใช้คะแนนอะไรบ้าง น้อง ๆ ยังต้องอาศัยเคล็ดลับในการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าคณะทันตแพทย์ โดยมีข้อแนะนำที่น้อง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ดังนี้
ทำ Portfolio ให้โดดเด่น
ถ้าต้องการสอบในรอบที่ 1 Portfolio น้อง ๆ ควรมีผลงานทางวิชาการ วิจัย หรือกิจกรรมจิตอาสาเกี่ยวกับด้านทันตแพทย์ หรือสุขภาพช่องปาก รวมไปถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการชุมชน การทำงานอาสาสมัครในโรงพยาบาล หรือการเข้าร่วมค่ายวิชาการ เนื่องจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในอาชีพนี้ ทั้งยังเพิ่มความน่าสนใจให้กับแฟ้มสะสมผลงาน
วางแผนอ่านวิชาหลักอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือเตรียมความพร้อมสอบวิชาสามัญ ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ให้ดีที่สุด โดยใช้เวลาแต่ละสัปดาห์อ่านอย่างน้อย 3-4 วิชาสลับกัน การวางแผนการเรียนอย่างเป็นระบบจะช่วยให้มีเวลาทบทวนและเสริมจุดอ่อนได้ดี
ทำความเข้าใจและฝึกทำข้อสอบวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์
สำหรับกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ควรมุ่งเน้นการทำความเข้าใจหลักการและการประยุกต์ใช้ มากกว่าการท่องจำ รวมถึงหมั่นฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ อยู่เสมอ เพราะข้อสอบ A-level มักจะเน้นการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาในระดับที่ลึกขึ้น
ฝึกทำข้อสอบ TPAT1 อย่างเข้าใจ
TPAT1 เป็นข้อสอบวัดจริยธรรม แรงจูงใจ และความเข้าใจในบริบทของอาชีพแพทย์และทันตแพทย์ การฝึกทำข้อสอบแนวจริยธรรม แก้ปัญหาสถานการณ์ และการใช้เหตุผลเชิงคุณธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรศึกษาหลักจริยธรรมทางการแพทย์ สิทธิผู้ป่วย และการแก้ไขปัญหาเชิงจริยธรรมในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
ติวสอบเพิ่มเติม เพื่อเสริมความรู้
การเข้าร่วมคอร์สติวที่มีคุณภาพจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในจุดที่น้อง ๆ ยังไม่มั่นใจ และยังได้รับเทคนิคการทำข้อสอบที่มีประสิทธิภาพ การเลือกสถาบันติวที่มีผลงานและเข้าใจระบบการสอบเป็นอย่างดี จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยคำแนะนำเหล่านี้ คงช่วยให้น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบเข้าคณะทันตแพทย์ได้อย่างมั่นใจ ส่วนคนที่สนใจคอร์สเรียนติวเพิ่มเติม ขอแนะนำคอร์ส TPAT1 จาก Applied Physics ที่จะเจาะลึกข้อสอบเฉพาะทางสำหรับสายแพทย์ฯ โดยเฉพาะ เนื้อหาแน่น อธิบายเข้าใจง่าย พร้อมเทคนิคทำข้อสอบให้แม่นและทันเวลา เริ่มเรียนได้เลยทั้งออนไลน์และไลฟ์คลาส สอบติดคณะทันตแพทย์ได้อย่างที่ใจฝัน ดูรายละเอียดคอร์สทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ Applied Physics สอบถามรายละเอียดสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-3060867, 02-3060868, 02-3060869, 085-4925599 หรือ Line: @appliedphysics (มี @ นำหน้า)
ข้อมูลอ้างอิง
- ข้อมูลการรับสมัครของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 จาก https://course.mytcas.com/universities/001/faculties/32/fields/12_01
- ข้อมูลการรับสมัครของมหาวิทยาลัยมหิดล. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 จาก https://course.mytcas.com/universities/006/faculties/04